วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

แล้วก็หลวมตัวไปอินเดียอีกแล้ว


อีกแล้ว  แปลว่า ไม่ใช่ครั้งที่หนึ่ง
กาลครั้งหนึ่งเมื่อกว่า 5 ปีที่แล้ว  ไปเที่ยวอินเดียมารอบหนึ่ง  เบิกบานใจเป็นอันมาก
 แอบรักอินเดียอยู่หลายสิ่ง  รักความเรียบง่าย  มีแค่ไหน ก็ใช้กันไปแค่นั้น  ตึกสีด่างๆ ก็ด่างไป กระจกหน้า ต่างแตกบ้าง ก็ไม่เป็นไร ยังใช้ได้  ใช้อยู่อาศัย ทำงานกันไปได้   ดีจริง ประหยัดถูกใจคนมัธยัสถ์เป็นอันมาก
รักน้ำใจจากหนุ่มแขก ที่ยื่นโทรศัพท์มือถือให้ใช้โทรตามหาลูก  รักคนขับออโต้ริกชอว์  ที่พาซอกแซ่กทางลัด  ให้เงินเกิน ก็คืน แห้ม....ไม่น่าเชื่อ   ไปไหนก็มีคนยิ้มทัก  ไม่ถูกคนมองสำรวจหัวลงเท้า แบบไปเมืองผู้ดีๆ  เช๊อะ......
ครั้งนี้ก็หลวมตัวรับปากเพื่อนแขกว่าจะไปหา  ทั้งๆที่รู้ว่า ไม่ใช่เมืองเดิม  และที่สำคัญเดินทางไปเดือนเมษา  เดือนเมษาหน้าร้อน  ป้าจินนี่จะออกจากขวดไปอินเดียแถบร้อนๆ   กรี๊สสสสสส  คุณน้องสาวก็ดีใจ จัดแจงฝากลูกชายตัวจ้อยไปเรียนซัมเมอร์ที่โรงเรียนแขก  เป้นการชิมลาง นางว่าอย่างนั้น 
รับปากทั้งเพื่อน ทั้งน้อง แล้วแอบกลุ้มใจ  ถามคุณ( กู )เกิ้ลเรื่องดินฟ้าอากาศหลายรอบ  เผื่ออุณหภูมิจะลดลงบ้าง แต่เปล่าเลย เธอยังขึ้นไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ และเรื่อยๆ  ก็ต้องก้มหน้าก้มตาหาตั๋วถูกๆไปอินเดีย  ลงเมืองนิวเดลฮีนะเจ้าคะ 
แอร์เอเชีย ก็ตัดช่องน้อยปล่อยผู้โดยสารชั้นประหยัดสุดๆให้ว้าเหว่เสียแล้ว  เพื่อนผู้ชำนาญการอินเดียแนะนำสายการบิน Indigo  จองทางอินเทอร์เน็ต  ป้าจินนี่อยู่ในขวดนานไปหน่อย จองทางเน็ตก็ไม่เป็น แถมยังได้ฟังประสบการณ์แย่ๆ ของคนที่จองทางเน็ตแล้วผิดพลาดมีปัญหา เลยไม่กล้า ( แบบนี้ไม่ดีนะ อย่าเอาเยี่ยงอย่าง ฟังเขามา แล้วเชื่อตาม สรุป  ป๊อดอ่ะนะ)  และพบว่าไม่ได้จองล่วงหน้า Indigo ก็ไม่ได้ถูกกว่าชาวบ้านเขาเท่าไร 
สำรวจดูอัตราค่าเงินที่ต้องจ่าย อือม์  สายการบินรักคุณเท่าฟ้า  ไม่ได้ๆ ความรักที่ราคาแพง กินไม่ได้    สายการบินสาวหมวยเพื่อนบ้าน อือม์ บริการใช้ได้ น่าสนใจ  แต่สำรวจทุนทรัพย์ และเวลาที่เหมาะสมแก่การเดินทางแล้ว    นี่เลย....อีชั้นเลือก แอร์อินเดีย คร่า  ถูกสุด ออกเช้า เที่ยงถึง    เวลากลับ ก็ยามบ่าย  ถึงเมืองไทยค่ำ  ไม่ต้องตรากตรำไปงีบที่สนามบิน  เหมือนครั้งก่อนที่เกือบตกเครื่อง เพราะหลับที่สนามบินอย่างรื่นรมย์     อย่ามาว่ากัน ใครไม่เคยไปสนามบินเมืองแขก รึจะเข้าใจ  ที่นั่นเขามีเก้าอี้นอนแบบเอนนอนสบายประหนึ่งนอนหน้าทีวีที่บ้าน แอร์ก็เย็นสบาย ขนาดนั้น  จะไม่ให้หลับ จนแอร์โฮสเตสต้องมาปลุกกระไรได้   เอาล่ะๆ สรุป  ไปแอร์อินเดียนี่แหละดีแล้ว  
รีบไปแลกเงินรูปีโดยไว   หมื่นบาท  จัดไป   อย่าใช้มากกว่านี้นะยะ อยู่ฟรี กินฟรี เที่ยวฟรี จะช้อปอะไรมากมายนักหนา    ใครเขาแลกเงินกันที่ไหน  แต่เดิมไปไหน ใช้บริการ ซุปเปอร์ริช ตรงข้ามเซ็นทรัล เวิร์ลด์   เรทดีกว่าธนาคาร หุ หุ  ประหยัดจร้าที่รัก   ช่วงหลังคุณเกิ้ลแจ้งร้านรับแลกเงินเรทดีเหมือนซุปเปอร์ริชนี่ล่ะ หลายที่  แต่ถนัดย่านสะพานควาย  เพราะไปแวะเวียนแถวนั้นบ่อย  จอดรถง่าย  แลกง่าย ไม่ได้เข้าคิว กรอกข้อมูล  แถวนี้หลายร้าน ติดๆกันเลยก็มี  เท่าที่ไปสอดส่องมา คิดว่า SC และ ลินดา ถูกสุดนะ แต่ร้านๆอื่นก็ต่างกันแค่ 0.05 อะไรทำนองนี้  ข้อมูลนี้ อาจไม่เที่ยงนัก เพราะบางวันเปิดดูอัตราของร้านหนึ่งจากอินเทอร์เน็ต และไปถามอีกร้านหนึ่งด้วยวาจา  บางทีรายการจากอินเทอร์เน็ตอาจคลาดเคลื่อนก็ได้ ( เนอะ ) เอาเป็นว่าอัตราไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญก็แล้วกัน  ยกเว้นจะแลกเงินไปเป็นล้านบาท อะเฮอะ คิดแล้วอยากทำอย่างนั้นบ้างจัง…. ในชีวิต  ช่วงที่ไปนี่ แลกได้ในราคา 10 รูปี เท่ากับ 8.15 บาทจร้า
เป็นครั้งแรกที่นั่งสายการบินแขก  แอร์อินเดีย  มีคนข่มขู่ว่าระวังกลิ่นนะ  ไม่เป็นไร  รับได้ฮ่ะ  ( ขอถูกและสะดวกมาก่อน )  เอาเข้าจริง สายการบินนี้ ก็สะดวกสบายดี  ไม่มีกลิ่นเครื่องเทศตามที่มีคนเขย่าขวัญไว้ อาหารเทศที่เสริฟมาก็อร่อย (จาก catering ของการบินไทยคร่ะ)  คุณหลานรับทานเสียเกลี้ยง  พ่อหนุ่มที่นั่งข้าง หล่อ สะอ้าน สุภาพ บอกว่าบ้านอยู่ใกล้เดลลี  แต่หนุ่มก็กรอกใบเข้าประเทศนะ  สงสัยจะใช้สัญชาติอื่น สงสัย แต่ไม่กล้าถาม  แอร์โฮสสะเตสไม่ใคร่สาว แต่ก็สวย  บริการดีตามสมควรของการนั่งเครื่องบิน ( ไม่ ใช่นั่งภัตตาคาร หรือ โรงแรมนะยะ)   อะไรๆก็ดูดี เสียหน่อย ตอนเครื่องแลนด์ ผู้โดยสารทั้งหลายรีบลุก รีบต่อแถว  เอ่อ ไม่ทราบจะรีบไปไหนนักคร้ะ   ทั่นกัปตัน ประกาศว่ายังเปิดประตูไม่ได้จ้ะ ( ที่รัก ) การจราจรภายใสนามบินยังไม่เรียบร้อย  เชิญนั่งก่อน  พ่อหนุ่มสะอ้าน ลุกแล้วลุกเลย ไม่ยอมเสียฟอร์มกลับมานั่ง  มีหนุ่มใหญ่จากด้านหลังมานั่งแทน  ยกแขนประกอบการสนทนากับเพื่อนหวืบหวับ  อีชั้นควักยาดมอุดจมูกระส่ำเลยอ่ะคร่ะ
ได้เวลาอันมงคลฤกษ์ ประตูเครื่องบินเปิด คณะเราได้เหยียบแผ่นดินอินเดียแล้ว เย้  สนามบินอินธิรา คานธี  เทอร์มินอล 3  เดินตามผู้โดยสารทั้งหลายไป  หน้าตาสนามบินก็คล้ายๆกันไปทุกประเทศ (ที่เคยไป )  เขาบอกกันมาว่า นี่คือ สนามบินใหม่  โอเคร่คร่ะ  เดินตามๆไป แวะเข้าห้องสุขาเสียหน่อย แล้วไปให้เขาตรวจ  คนว่างวายไปมาก เพราะโอ้เอ้ศาลารายเข้าห้องน้ำ  ดีเหมือนกัน ไปถึงก็รายงานกับท่านต.ม.แขกเลยทีเดียว ท่านก็ตรวจแล้วตรวจเล่า มาทำไม พักทีไหน ยูทำอะไร  อ่อ เจ้าหนู มาทำไมล่ะ อือ ชื่อนี่รึ กว่าจะผ่านก็กินเวลาร่วม 15 นาที  แล้วจึงตรงไปหาผู้มารับ  ได้เรียนรู้อย่างหนึ่งว่า สนามบินแห่งนี้ เมื่อคุณผ่านออกไปแล้ว ห้ามเข้ามานะจ๊ะ บทเรียนนี้ เจ้าหน้าที่ airtel ผู้แสนดี กรุณาให้ยืมโทรศัพท์ โทรหาคนขับรถ  ยืนรอให้คณะพร้อม พาออกไปหาคนขับรถ แล้วบอกให้รู้ว่า ยูจะเข้าๆออกๆประตูนี้มิได้ดอกหนา ออกแล้วออกเลย  ได้รู้กันไปครานั้น  ว่านี่คือ ความต่างอย่างที่หนึ่ง  ความต่างอย่างอื่นค่อยเล่าต่อไป   บัดนี้ อีชั้นได้พาคณะกลุ่มน้อยๆ มาเหยียบเมืองนิวเดลลีแล้วเจ้าข้าเอ๊ย ออกไปนอนสนามบิน ก็รู้สึกว่ากำลังเข้าห้องครัวที่อบขนมอยู่  อ่อ  ร้อนเจ้าค่ะ ร้อน อากาศร้อนที่คุณเกิ้ลบอกไว้ คะเนแล้วประมาณ 40 องศาเซลเซียส  อือม์ มิหวั่นคร่ะ  เพราะเราได้มาหาประสบการณ์ใหม่ๆ กันแล้ว  แถ่นแท้น  เหมือนเปิดหนังสือหน้าใหม่ เล่มใหม่เลย อารมณ์ประมาณนั้น  ขึ้นรถที่มารับแล้ว จึงสอดส่ายสายตาชมเมืองไปตลอดทาง  ทางไปไหน คือ เราจะออกจากเมืองนิวเดลลีไปพักที่เมืองไจเปอร์ ( Jaipur ) เมืองที่เจ้าของประเทศอ่านว่า ไจปูรรร   หนังสือประวัติของเราถ้าจะพูดเมืองนี้ในอดีต ก็จะเรียกว่า ชัยปุระ  สรุปคือ เมืองเดียวกัน เมืองที่มีชื่อด้านประวัติศาสตร์ คุณเกิ้ลอีกเหมือนกัน บอกว่า มีสมญาว่า pink city  คริ คริ ทำการบ้านก่อนมานิสสนุงส์


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น